เวลาละหมาดปัตตานี
ช่วงนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นขึ้นปีใหม่หลายท่านคงได้รับปฏิทินอิสลามที่มีการบอกเวลาละหมาดดังนั้นขอให้เราท่านทั้งหลายตระหนักถึงความสำคัญของการละหมาดให้มากเพราะว่าการละหมาดนั้นเป็นอิบาดัตชนิดเดียวที่เมื่อเราท่านทั้งหลายนึกคิดอยู่เสมอว่าการละหมาดนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆๆๆสำหรับการที่ได้เกิดมาเป็นผู้ศรัทธารับรองได้ว่ายากที่เราท่านทั้งหลายจะขาดละหมาด
ในการคำนวณเวลาละหมาดนั้นในฐานะที่ผมเองได้ศึกษามาโดยตรงผมจะอยากขอแนะนำว่าไม่ว่าเราท่านทั้งหลายจะดูปฏิทินหรือดูเวลาละหมาดทางใหนก็แล้วแต่ปัญหาที่พบอยู่บ่อยๆก็คือเวลาของการละหมาดซุบฮิได้พบว่าผู้รู้ ( อาเล็ม ) ในวิชาฟะลักในสมัยก่อนหลายต่อหลายท่านรวมถึงสมัยนี้หลายต่อหลายท่านได้คำนวณเวลาละหมาดได้บอกว่าเวลาซุบฮิต้อง 20 องศาก่อนดวงอาทิตย์จะขึ้นจริง ( คืออยู่ต่ำกว่าขอบฟ้า 20 องศาหาค่าแธนพีส่วนสองเท่ากับสแควรรูตเศษซายวงเล็บอาร์ลบซีคูณซายวงเล็บอาร์ลบเอสส่วนซายวงเล็บอาร์ลบพีคูณซายอาร์ต่อจากนี้ยังมีขั้นตอนอีกมากมายกว่าจะได้เวลาละหมาดซุบฮิเวลาซุบฮิยังอยู่ในประมาณ 20 องศาตรงนี้ผมไม่ห่วงต่างกันนิดหน่อยอยู่ที่ตำแหน่งแลต - ลองที่คำนวณ ( ตรงนี้สำคัญมากๆๆๆถ้าคำนวนตรงใจกลางเมืองด้านชานเมืองอาจยังไม่เข้าเวลาก็เป็นได้แต่ตามพระผู้เป็นเจ้าแล้วเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากเพราะถ้าเริ่มละหมาดก่อนเข้าเวลาก็ใช้ไม่ได้นั่นเอง ) แหละค่าเวลาเผื่อแต่ที่เป็นห่วงก็คือเวลาซุบฮิที่ต่างไปกว่าปฏิทินมากบางทีมากถึง 12 นาทีบางทีมากถึง 8 นาทีซึ่งปัญหานี้ก็จะเกิดขึ้นช่วงเดือนร่อมะดอนนั่นเองคือเข้าเวลาละหมาดซุบฮิจริงๆแล้วแต่ยังรับประทานอาหารกันอยู่เลยซึ่งตรงนี้ควรตระหนักให้มาก
วิเคราะห์ตามหลักดาราศาสตร์อิสลาม
ดังนั้นวันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ.2556 ตรงกับวันที่ 29 ซอฟัร ฮ.ศ.1434 (ทางสำนักจุฬาราชมนตรีกำหนดให้วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2555 เป็นวันที่ 1 ซอฟัร ฮ.ศ.1434 ดังนั้นวันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ.2555 ทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศให้ดูดวงจันทร์เสี้ยว เพื่อกำหนดวันที่ 1 ร่อบีอุ้ลเอาวั้ล ฮ.ศ.1434
-สำหรับประเทศไทย จันทร์ดับ ตรงกับวันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ.2556 เวลา 02.43.35 วินาที (เกล็ดเล็กเกร็ดน้อย ควรจะใช้คำว่าดูดวงจันทร์เสี้ยวหรือดูจันทร์เสี้ยว แทนจากคำว่าดูดวงจันทร์เพราะตามฮาดิษใช้คำว่าฮิลาล แปลว่าดวงจันทร์เสี้ยวหรือจันทร์เสี้ยว โดยที่ในฮาดิษไม่ได้ใช้คำว่าก่อมัรซึ่งแปลว่าดวงจันทร์ เพราะด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หลังเข้าเวลาละหมาดมัฆริบ อาจจะสามารถใช้กล้องเห็นดวงจันทร์ได้ แต่เห็นเป็นดวงจันทร์ดำๆกลมๆมืดสนิท ไม่มีเสี้ยวขาวๆเลยแม้แต่น้อย การเห็นลักษณะแบบนี้ ตามหลักการของศาสนาอิสลาม ไม่สามารถนำมารายงานว่าเห็นจันทร์เสี้ยวได้ เพราะไม่มีการเห็นเสี้ยวของดวงจันทร์แต่อย่างใด การเห็นลักษณะแบบนี้ ตามหลักการของศาสนาอิสลามแล้ว ไม่สามารถนำมาเริ่มต้นเป็นวันที่1ของเดือนอิสลามได้ เพราะท่านร่อซูลุ้ลลอห์(ซ.ล.)ได้กล่าวว่า“ท่านทั้งหลาย จงถือศีลอดเพราะเห็นดวงจันทร์เสี้ยว และจงละศีลอดเมื่อเห็นดวงจันทร์เสี้ยว (เลิกถือศีลอด) ถ้าหากมีเมฆเกิดขึ้นเหนือพวกท่าน (มีเมฆมาปกคลุมทำให้ไม่เห็นดวงจันทร์เสี้ยว) ก็ให้พวกท่านปล่อยเดือนซะบานให้ครบสามสิบวันเถิด (นับเดือนซะบานให้ครบสามสิบวัน)” รายงานโดย บุคอรี และมุสลิม
ในทางการปฏิบัติจริงๆให้พี่น้องรับฟังการประกาศทางสำนักจุฬาราชมนตรีเท่านั้นเพราะเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ
คนทุกคนต่างก็มีหน้าที่แหละความรับผิดชอบที่แตกต่างกันเราในฐานะผู้ตามต้องตามผู้นำผู้รายงานการดูจันทร์เสี้ยวต้องพูดในสิ่งที่เห็นจริง ( อย่าโกหกว่าเห็นจันทร์เสี้ยวทั้งๆที่ไม่ได้เห็นจันทร์เสี้ยวจริงผลบาปของคนอื่นทั้งหมดการโกหกอย่างนี้ถือว่าไม่ใช่สิ่งที่ศาสนาอนุญาตให้ทำเพราะมีหลักการศาสนาบอกไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าจะเริ่มขึ้นต้นเดือนใหม่ได้นั้นหรือถ้าไม่เห็นจริงก็เลื่อนไปอีกหนึ่งวันดังฮะดิษที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นดังนั้นนอกจากกรณีดังกล่าวจะไม่สามารถเริ่มขึ้นต้นเดือนใหม่ได้เลยจะโกหกว่าเห็นจันทร์เสี้ยวทั้งๆที่ไม่ได้เห็นจันทร์เสี้ยวจริงถือว่าเกิดโทษอย่างมากมายแหละต้องแบกรับผลบาปของผู้อื่นทั้งหมดณฝ่ายของพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วยโลกนี้วันนี้อาจไม่สามารถเห็นได้แต่โลกหน้าอาคิเราะห์จะต้องได้เห็นผลบาปอย่างแน่นอน )
คัดลอกมาจาก http://goo.gl/xDVaUo
เวลาละหมาด จ.ปัตตานี เวลาละหมาด ซุบฮิ จ.ปัตตานี เวลาละหมาด ซุฮรี จ.ปัตตานี เวลาละหมาด อัสรี จ.ปัตตานี เวลาละหมาด มักริบ จ.ปัตตานี เวลาละหมาด อีชา จ.ปัตตานี เวลาละศีลอด จ.ปัตตานี เวลาเปิดปอซอ จ.ปัตตานี เวลาแก้บวช จ.ปัตตานี ปฏิทินเดือนรอมฎอน ฮ.ศ.1435 (พ.ศ.2557)